สวัสดีปีใหม่ไทย เชื่อว่าหลายคนคงตั้งตารอคอยกับการท่องเที่ยวในวันหยุดยาว บ้างก็เดินทางกลับต่างจังหวัดเพื่อไปทำบุญสุนทาน และสรงน้ำพระ นอกจากนี้ยังได้ถือโอกาสรดน้ำดำหัวขอพรผู้หลักผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นประเพณีอันดีงามที่คนไทยได้ปฏิบัติสืบทอดกันมาช้านาน
เทศกาลอันชุ่มฉ่ำท่ามกลางอากาศอบอ้าวที่นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นนั้น ก็นำมาซึ่งโรคภัยหลายอย่าง วันนี้เรามาทำความรู้จักกับโรคภัยที่แฝงมาในเทศกาลสงกรานต์กันดีกว่า
- โรคระบบทางเดินหายใจ ที่พบเห็นบ่อย ๆ คือมีอาการไข้ น้ำมูกไหล เป็นหวัด เพราะร่างกายต้องอยู่ภายใต้อุณหภูมิที่สลับสับเปลี่ยนกับอากาศ ที่ร้อนฉ่าและน้ำเย็นที่สาดเล่นกันจนชุ่มฉ่ำไปทั่ว ทำให้ต้องเปียกชื้นเป็นเวลานาน ร่างกายจึงปรับสภาพไม่ทัน
- โรคติดต่อในฤดูร้อน ที่เกิดจากการรับประทานอาหาร ที่ไม่ถูกสุขลักษณะตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่นปรุงไม่สุก มีการปนเปื้อนของเชื้อโรคต่าง ๆ
- โรคที่เกิดจากสภาพอากาศร้อนอบอ้าว เพราะการเล่นสงกรานต์มักจะเล่นกันในที่โล่งแจ้ง จึงรับแสงแดดมากกว่าปกติจนถึงขั้นเป็นลมแดดกันได้เลยทีเดียว หรือทางการแพทย์เรียกว่าฮีทสโตรก (Heat Stroke) อาการแบบนี้เป็นเพราะร่างกายไม่สามารถควบคุมความร้อนได้ หากจะลดความเสี่ยงของโรคนี้ต้องพกพา น้ำดื่มสะอาดติดตัวไว้ เล่นไปดื่มไปร่างกาย จะได้ไม่ขาดน้ำ
- โรคที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากสุราจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุแล้ว การดื่มสุราท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดยังทวีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอีก เพราะอาจทำให้เกิดการช็อคและหัวใจวายเฉียบพลันได้
ที่กล่าวมาทั้งหมดยังไม่รวมถึงอันตรายที่มากับน้ำตามธรรมชาติซึ่งมีการปนเปื้อนของแบคทีเรียหลายชนิด หากได้รับเชื้อเข้าไปก็ทำให้ความปลอดภัยในชีวิตมีน้อยลงทุกที
อ้อ!!! พูดถึงแต่โรคภัยเดี๋ยวจะทำให้เกิดความกังวลจนไม่อยากออกไปเล่นสงกรานต์ ถ้าเช่นนั้นจะขอหยิบยกภูมิปัญญาไทย ที่ใช้เป็นเครื่องเคียงกับน้ำอบไทย มีมาแต่ครั้งโบราณและจนถึงปัจจุบันก็ยังมีให้เห็นอยู่
“ดินสอพอง” หรือดินมาร์ล เป็นสารประกอบหินปูน ซึ่งมีแคลเซียมคาร์บอเนตผสมอยู่นั้น นิยมใช้กันมาตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย จัดว่าเป็นสมุนไพรไทยแท้ขนานหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มยาธาตุวัตถุและพบว่ามีการใช้มาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยปรากฏอยู่ใน”ตำราพระโอสถพระนารายณ์” กล่าวถึงการใช้ดินสอพองไว้ว่า
“ให้เอาชานอ้อย กำยาน แก่นคูน กรักขีถาก รมหม้อใหม่ใส่น้ำไว้ จึงเอาดินสอพองเผาให้สุก ใส่ลงในหม้อน้ำนั้น ให้คนเข้ากินกันเนืองๆ แก้ร้อนใน แก้กระหายน้ำ หยุดแล”
ถ้าจะให้บอกประโยชน์ของดินสอพองนั้นก็ยังมีมากมาย คือช่วยแก้พิษร้อนถอนพิษไข้ ทาร่างกายช่วยแก้ผด ผื่น คัน และเย็นสบายแม้ในช่วงฤดูร้อน และถ้าใช้ประหน้าก็สามารถป้องกันแดดได้อย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยขจัดสิวเสี้ยนลดอาการอักเสบเขียวช้ำได้อีกด้วย โดยเฉพาะในรายที่มีอาการหัวโน ก็ใช้ดินสอพองผสมมะนาว เคล้าให้เข้ากันแล้วทาบริเวณที่บวมปูดรับรองหายเป็นปลิดทิ้ง
แต่ก็มีข้อควรระวังจากดินสอพองมาบอกด้วยค่ะ เพราะทำจากดินธรรมชาติผสมกับน้ำแล้วนำมาตากแดดจนแห้ง จึงอาจมีดโอกาสปนเปื้อนกับเชื้อจุลินทรีย์ ควรระมัดระวังอย่าใช้กับบาดแผลที่มีรอยถลอก หรือเข้าปาก เข้าตา เพราะจะทำให้ได้รับเชื้อ Pseudomonas aeruginosa ซึ่งก่อให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรงได้
“สงกรานต์นี้ก็ขอให้ทุกท่านสุขกายสบายใจ ทุกข์โศกโรคภัยอย่าได้กล้ำกรายนะคะ”
***ปริยากร โพธิ์ทอง รายงาน***